Home
Peachii fiction
Peachii 2 cine

Review by   :       Peachii         
Date            :    24-May-2004   

 Genre / ประเภท --  
 Actor, Actress / นักแสดง  -- ทอมส์ ครูซ์ / เคน วาตานาเบ้
 Votes / คะแนน  -- 7/10

The Last Samuri

เรื่องย่อ ( เท่าที่จับใจความได้ )  &   ** Spoil **

               รู้สึกเหมือนหนังเรื่องนี้เพิ่งจะลาโรงไปแหม็บๆ เมื่ออาทิตย์ 2 อาทิตย์นี้เอง .. 555 ...

แต่จริงๆ ก็นานอยู่ ... เรื่องนี้ได้ยินชื่อครั้งแรกเมื่อรุ่นน้องในออฟฟิศคนหนึ่งมาเล่าว่าไปดูหนัง

เรื่องนี้มาเมื่อวันหยุด .. แล้วเธอก็บอกว่าสนุกมากๆๆๆ ..... ย้ำค่ะ .. ว่าสนุกมาก  เพราะหน้าตา

ท่าทางเธอออกมาเหมือนกับจะบอกว่า  สนุกมากจริงๆ นะ  ควรจะไปดู ..

 

                แต่กว่า  peach  จะมาได้ดูเอาจริงๆ ก็เมื่อเรื่องนี้ลาโรง  ลงแผ่นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

555 ... ( อีกหน )  ....

 

                หนังเปิดฉากมาด้วยการสื่ออารมณ์ขมขื่นของตัวเอกอย่าง ทอม ครู๊ซ์  ในบท “ อัลเกรน “

ทหารอเมริกันที่กรำศึกมาหลายสมรภูมิ  แต่ศึกที่ทำให้เขามีความหลังฝังใจมากที่สุด  คือ 

การไปรบกับชนเผ่าอินเดียแดงไร้อาวุธ ... หนังบอกคนดูผ่านการเล่าเรื่องที่  อัลเกรนใส่

อารมณ์เจ็บปวดขมขื่นลงไปสุดๆ  เผยให้เห็นถึงบาดแผลส่วนลึกในใจของเขายามต้อง

ฆ่าชนเผ่าธรรมดาพียงหยิบมืออย่างเหี้ยมโหดและเลือดเย็น ...

 

                ต่อมาเขาถูกว่าจ้างให้ไปเป็นที่ปรึกษาฝึกกองกำลังของรัฐบาลเมอิจิ เพื่อสู้กับนักรบ

โบราณฝ่ายซามูไร ของ คัตซูโมโต ( เคน วาตานาเบ้ ) เขาตกอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งของ

ทั้ง 2 ฝ่าย  ก่อนที่จะถูกจับตัวไปเป็นเชลย ในการเผชิญหน้ากันครั้งแรกหลังจากเขาเข้ามาฝึก

ทหารของรัฐบาลไม่นาน ..

 

                ฉากต่อสู้ทำได้ในแบบที่เหมือนหนังรบโดยทั่วไป คือ ใช้คนมาก  เน้นโรมรัน

ทำให้นึกถึงฉากหนังไทยเรื่อง สุริโยทัย  หรือ  บางระจันของไทยเรา ...

 

                หนังเริ่มน่าสนใจช่วงระหว่างที่  อัลเกรนถูกจับเป็นตัวประกันในหมู่บ้านของ

ซามูไร  เขาต้องปรับตัว  ท่ามกลางสายตาที่จ้องมองมานับร้อยดวง  ที่จ้องมองมาด้วย

ความแปลกใจ จับตา  ระแวดระวัง  เกลียดชัง  และเคืองแค้น

 

                ชอบบทของหนังเรื่องนี้ตรงเอื้อให้เห็นพัฒนาการทางด้านจิตใจและการ

ปรับตัวของอัลเกรนได้เป็นอย่างดี  เมื่อเข้ามาในหมู่บ้านซามูไร  พฤติกรรมและ

ความคิดค่อยๆ พัฒนาปรับเปลี่ยนไปจนเข้ากับคนที่นั่นได้  และกลายเป็นที่ยอมรับในที่สุด

เป็นช่วงลุ้นและรู้สึกสนุกไปกับตัวหนังที่ดำเนินไปท่ามกลางความขัดแย้งต่างๆ

 

                มันเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ยากมาก  ที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะต้องมาดูแลศัตรูบาดเจ็บ

ที่เป็นคนฆ่าสามีของเธอ ... แต่  บทหนังโชว์ให้เห็นถึงความอกทน อดกลั้น  และจิตใจที่ดี

ในความมีมนุษยธรรมของคนในหมู่บ้านนี้  ... แม้จะโกรธและอาฆาต  แต่ความรู้สึกนี้ค่อยๆ

ถูกตัดทอนลงไป  เมื่อเห็นศัตรูเพ้อไข้  ทุรนทุรายทนทุกข์อย่างน่าเวทนา  ร้องโหยหวนกับ

ความรู้สึกผิดในใจเมื่อครั้งลงมือกำจัดชนเผ่าอินเดียแดงไร้อาวุธ ... คนธรรมดามือเปล่า

ที่ทหารอย่างเขาฆ่าอย่างเลือดเย็น ...

               

                ฉากที่ประทับใจมาก  คือ  ฉากที่อัลเกรนเห็นหญิงม่ายแบกกระบุงข้าวหนักๆ

แล้วเข้าไปช่วย  ขออภัยที่จำชื่อตัวละครตัวนี้ไม่ได้  เธอปฏิเสธ  ดูเหมือนจะบอกว่าเป็น

งานของผู้หญิงญี่ปุ่นทุกคนที่ต้องทำ  ประมาณว่าผู้ชายญี่ปุ่นเขาจะไม่มาช่วยอะไรทำนองนั้น

ช่วงนี้ดูแบบถูกขัดจังหวะหน่อยๆ  เพราะฉะนั้น  คำพูดที่ได้ฟังก็เลยจำไม่ค่อยได้  เอาได้แต่

ใจความแล้วกัน .. ^^  ...  แต่อัลเกรนไม่สนใจ  เขาดึงกระบุงข้าวมาถือ  พร้อมกับพูดว่า

“ แต่ผมไมใช่ผู้ชายญี่ปุ่น “ แล้วก็เดินถือไปหน้าตาเฉย ... รู้สึกดีกับฉากนี้ ... หนังสื่อวัฒนธรรม

ที่แตกต่างออกมาให้เราได้เห็นว่า  แต่ละชนชาติก็มีวัฒนธรรมของตนแตกต่างกันออกไป

สิ่งที่เราเห็นว่าเขาไม่ดีนั้น ... อาจจะเป็นเรื่องปกติธรรมดามากสำหรับเขา  หรือเช่นกัน 

สิ่งที่เราว่าดีของเรา  เขาอาจมาองว่าไม่ใช่ ... เพราะฉะนั้น  อย่าชี้ว่าอะไรผิดหรือถูก  ทั้งหมด

มันอยู่ที่วาระ  สถานะ  และสิ่งแวดล้อม ....

 

                มาที่ฉากต่อสู้ช่วงท้ายเรื่อง  ระหว่างซามูไรกับรัฐบาลญี่ปุ่น ... รู้สึกไม่ค่อยประทับใจ

สักเท่าไหร่ ..   อาจเป็นเพราะ  peach  เองคาดหวังให้ซามูไรมีการตอบโต้มากกว่านี้กระมัง ..

มากกว่าที่จะวิ่งไปสู้  ขี่ม้าเข้าไปรับกับความตายด้วยศักดิ์ศรี  และเกียรติยศ .. แต่ก็นั่นแหละ

อย่างที่บอก  อุดมการณ์ใครอุดมการณ์มัน ..555 ...

 

                อีกฉากที่ชอบ  คือ  ตอนท้ายในบทสนทนาของจักรพรรดิ ... ตอนที่ อัลเกรนนำดาบ

ของคัตซูโมโต  มาเข้าเฝ้า  จำได้เลือนๆ ว่า

 

                “  แม้เราอยากจะพัฒนาประเทศชาติ  .......... มีเสื้อผ้า  และอาวุธใหม่ๆ จากตะวันตกมาก

สักเพียงใด  แต่เราก็ไม่อาจลืมรากเหง้า  และตัวตนดั้งเดิมของเราได้ .........  “

 

                ขออภัยถ้าจำขาดตกบกพร่องไป  แต่ใจความคร่าวๆ ได้แบบนั้น ...

 

                สุดท้ายจักรพรรดิก็คิดได้ .. แต่รู้สึกว่ามันจะสายเกินไป  คนเราก็มักจะเป็นแบบนี้เสมอ

“ รู้คุณค่า  เมื่อสิ่งนั้นหลุดลอยไป  ต้องสูญเสียก่อนถึงจะรู้สึกเสียดาย  “  นี่คือ  สัจธรรมที่ได้จาก

ฉากๆ นี้ ..

 

                โทนหนังโดยรวมดูสนุกนะ  ให้แง่คิด  แต่ไม่ถึงกับติดตรึงอยู่ในใจมากนัก  แต่ก็ถือ

เป็นหนังที่จับเอาวัฒนธรรมของเอเชียเข้ามาเป็นตัวเดินเรื่องได้อย่างน่าสนใจ .. อ้อ .. ยังมี

อีกเรื่องแนวเดียวกัน  คือ  Kill Bill  กระทู้หน้าอาจจะได้มาคุยกันว่าดูจบแล้วรู้สึกยังไง???

 

                สรุปแล้ว  เรื่องนี้ถ้าใครชอบ  ทอม ครูซ์  ก็ซื้อเก็บไว้ได้ค่ะ .. โดยเฉพาะนางเอก

ของเรื่องนี้    เป็นผู้หญิงญี่ปุ่นที่สวยขึ้นกล้องดีจริงๆ เลย ... ว่าไหมคะ??? ..... ^^ .......

 

 

---------------------- ***  The  End of Review  *** ---------------------

__ Peachii ___

Edit Writing :  24/05/04

 

( ความคิดเห็น .. แม้เพียง 1 ประโยค เปรียบเสมือน " ไม้ขีด " ที่จุดต่อประกายไฟให้กับงานเขียนชิ้นต่อไป .. ขอบคุณค่ะ ^^ )

++ .. Webboard : เวบบอร์ดต้นจินตนาการ .. ++

Anime & Drama :  รีวิวอนิเมะ&ดราม่า

@@ บอร์ดพูดคุยเรื่องหนัง, อนิเมะ และแฟนซับ ใครดูเรื่องไหนแล้วโดนใจ อยากพูด อยากคุย อยากแนะนำ เข้ามาได้ที่ บอร์ดหนัง ค่ะ..@@
======== OOO =========

 

 

.............................. ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่แวะเข้ามาเยี่ยมเยียน ...............................

งานเขียนทุกเรื่องที่ปรากฎในเวบนี้  ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายให้เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน
ห้ามนำไปกระทำการใดๆ ก่อนได้รับอนุญาตจากผู้เขียนเรื่องนั้นๆ

http://peachfic.50webs.com   หรือ   http://peachfic.50megs.com

     Contact Webmaster  :   peach_fic@hotmail.com

Msn      :   peach_fic@hotmail.com.