Home
Peachii fiction
Peachii 2 cine

Review by   :       Peachii         
Date            :   30-May-2004    

 Genre / ประเภท --   Hk. (2002-2003)
 Actor, Actress / นักแสดง  -- Tony Leung Chiu-Wai, Andy Lau Tak-Wah, Anthony Wong Chau-Sang, Eric Tsang Chi-Wai, Sammi Cheng Sau-Man, Kelly Chen, Elva Hsiao
 Votes / คะแนน  -- 9.5/10

Infernal Affairs.I-III

เรื่องย่อ ( เท่าที่จับใจความได้ )  &   ** Spoil **

                ต้องขอสารภาพเลยว่าหนังเรื่องนี้ไม่เคยคิดที่จะหยิบขึ้นมาดูเลย  เพราะหลังจาก  ...

“ โหดเลวดี - Better Tomorow “  และ  “ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ “ แล้ว (ขออภัยที่เรื่องนี้จำชื่อภาษาอังกฤษ

ไม่ได้ ) โทนหนังฮ่องกงที่เข้ามาในบ้านเราเริ่มเปลี่ยนไป  เป็นแอคชั่นมันส์ๆ มากขึ้น  ในยุคของ เฉินหลง

และกลายเป็นคอมมาดี้สุดๆ ในยุคของ  โจวซิงฉือ  ซึ่งอาจเป็นแนวหนังที่ไม่ตรงกับใจสักเท่าไหร่ 

ก็เลยไม่ได้ให้ความสนใจ  เรียกว่า  ไม่คิดที่จะก้าวเข้าโรง  หรือหยิบขึ้นมาดูเลยว่างั้น …

 

                แต่ที่หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาดูได้  ต้องยกความดีให้เพื่อนคนหนึ่ง  ที่ได้ไปดูมาแล้วประทับใจมากถึง

ขนาดเอ่ยเรื่องนี้ให้ฟังถึง  2  ครั้ง 2 ครา  ตอนนั้นยอมรับว่าแปลกใจเล็กน้อยที่มีคนพูดถึง  แสดงว่าหนังต้อง

มีอะไรดี  แต่สุดท้าย  ก็ยังไม่ได้ไปดูอีกตามเคย  -- --“

 

                ผ่านมาหลายปี  เมื่อเดินเข้าไปในร้านเช่าวีซีดีอีกครั้ง  หนังเรื่องนี้มีถึง  3  ภาคแล้ว ...

และที่กำลังวางอยู่บนชั้น  New  Arrive คือ  ภาคสุดท้าย  ภาคที่ 3...

 

                พูดถึงความรู้สึกแรกที่เปิดดู ... ก็คิดว่าคงไม่พ้นแนวบู๊ประเภทแอคชั่นของฮ่องกง

เหมือนๆ กับที่เคยดูมา  แต่ที่อยากดูมากๆ คือ  ตัวบทหนังมากกว่า  กึ๋นของบทที่จะออกมา

ยังไงให้มันหักเหลี่ยมเฉือนคมจนคนดูรู้สึกสนุกไปกับมัน .. สนุกถึงขนาดพูดถึง .. หลังหนังจบ

อันนี้น่าสนใจ ..

 

                หนังเปิดฉากเดินเรื่องได้เร็วฉับไว  แล้วก็นำเข้าสู่การชิงไหวชิงพริบระหว่างหนอนในกรมตำรวจ 

กับหนอนในมาเฟียได้อย่างตื่นเต้นเร้าใจกันตั้งแต่ต้นเรื่อง  เมื่อหยัน ( เหลี่ยงเฉาเหว่ย ) เข้าไปเป็นสาย

ให้ตำรวจที่แก๊งค์มาเฟีย  ส่วน  หมิง ( หลิวเต๋อหัว )  ก็เข้ามาเป็นสายให้มาเฟียในกรมตำรวจ

 

                อารมณ์โดยรวมของภาคนี้นอกจากจะตื่นเต้นเร้าใจ  เกินการคาดเดาแล้ว  ยังออกโทน

เศร้าและลุ้นระทึกไปในคราวเดียวกัน  โดยเฉพาะดนตรีประกอบ  ชอบตอนช่วงที่หมิงโทรหาหยัน

โดยใช้โทรศัพท์ของผู้การหว่อง  หัวหน้าของหยันที่เพิ่งตายไป  ดนตรีมันเข้ากับอารมณ์ลุ้นระหว่าง

ชั่งใจที่จะรับ  หรือไม่รับสาย .. ในความรู้สึกโดยส่วนตัว   ดนตรีตรงนี้มันค่อนข้างลงตัวดีเลยทีเดียว ..

 

                ฉากโรแมนติคของหนังเรื่องนี้ก็มี  เข้ามาเล็กน้อยพอให้ได้อมยิ้มเล็กๆ  ปูให้เห็นพื้นฐานของ

จิตใจของทั้งหมิงและหยันว่า  ผู้หญิง 2 คนนี้  มีอิทธิพลต่อใจของพวกเขามากมายเพียงใด  คนหนึ่ง

คือที่พึ่งสุดท้าย  อีกคนสำคัญขนาดสามารถเปลี่ยนจิตใจคนได้ ... ... ( ใครว่าผู้หญิงไม่สำคัญ ..555 ..

คือผู้บงการที่แท้จริงเลยล่ะ ..อิอิอิ ..  )

 

                ส่วนฉากจบ  ไม่ขอพูดถึงดีกว่า .. เพราะมันเศร้าเข้าขั้นติดอยู่ในใจ  นานหลายวัน ...

กับบทสรุปที่เกินคาด ... มันมีผลอย่างมาก  หากใครดูรวดเดียวจบ 3 ภาค  โดยเฉพาะในภาคที่ 3

ว่าแล้วก็มาดูภาคถัดไปเลยดีกว่า ..

 

- - - ----------------- oooooo ------------------ - - -

Infernal Affairs.II – 2คน 2 คม ภาค 2

 

                ภาคนี้หนังเล่าย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นของทั้ง 2 ว่าทำไม  แต่ละคน  ถึงเลือกทางเดินที่แตกต่างกัน

ในภาค 1 ... เพราะอะไร??

 

                หมิง .. เลือกที่จะเป็นสายให้มาเฟีย  เพียงเพราะเขาหลงรัก  แมรี่  ภรรยาของแซม  หัวหน้า

แก๊งค์มาเฟีย  ในภาค 1

 

                ส่วน  หยัน ... เลือกที่จะเป็นสายให้ตำรวจ  โดยเข้ามาคลุกในวงการมาเฟียเพียงเพราะ 

ต้องการเดินคนละเส้นทางกับพ่อ  และพี่ต่างมารดา  ที่เป็นมาเฟียใหญ่ ..

 

                น่าทึ่งที่คนเขียนบทสามารถประติดประต่อเรื่องราวก่อนหน้าขึ้นมาได้อย่างค่อนข้างเนียน

และต่อได้แทบจะสนิท  ติดแต่ความรู้สึกของหยันเท่านั้น  ที่ดูแล้วรู้สึกว่า  ออกจะลืมง่ายจนเกินไป

ในภาคแรก  หลังจากภาค 2 จบด้วยสีหน้าเจ็บแค้นสารวัตรหว่อง  (หวงซิวเซิน )ที่ลงมือสังหารพี่ชาย

ตัวเอง ต่อหน้าต่อตาทั้งๆ ที่เขาก็เข้ามาเป็นสายเก็บหลักฐานทุกอย่างให้แล้ว ... มาก  พอที่จะเอาผิดได้ ...  

แต่พอมาที่ปัจจุบันในภาค 1 หนังกลับโชว์ความสัมพันธ์ของ 2 คนนี้แบบแนบแน่นมาก  ถึงขนาดมี

การซื้อนาฬิกาให้วันเกิด ..หรือเสียใจที่หว่องตาย ...

 

                ส่วนอื่นๆ รู้สึกว่าค่อนข้างจะกลมกลืน  สมเหตุสมผลพอที่จะโยงเข้าไปถึงผลของภาค 1 ได้

อย่างไม่ขัดเขิน  ตัวบทเก็บรายละเอียดปลีกย่อยได้ค่อนข้างดี  ..  ถึงดีมาก  ไม่หลุดแม้กระทั่งรุ่นของ

โทรศัพท์สมัยเมื่อ 10  ปีก่อน  และกระทั่งการโผล่มาแค่ 2-3 วิ  ของภรรยาคนแรกของหยัน ... ในฉาก

ที่เขาโวยวายภรรยาคนแรกที่อยู่ด้วยกันมา 3 ปี  ว่าไปทำแท้งมาด้วยความโมโห ... ทำให้นึกไปถึงฉาก

ภาคแรก  ที่เขาเจอกับแฟนคนนี้  ก่อนจะไปเจอกับผู้อำนวยการหว่อง

 

หยัน        -               ไม่เจอกันนานนะ คุณเป็นไงบ้าง

ภรรยา    -               อืม .. ก็  6-7 ปีได้แล้ว ฉันสบายดี   คุณยังเป็นมาเฟียอยู่เหรอ?

หยัน        -               .......  ( ยิ้มแห้งๆ )

ภรรยา    -               ฉันแต่งงานแล้ว  ( แล้วก็มีผู้หญิงสูงอายุจูงเด็กมาส่งให้ )

หยัน        -               นั่นลูกของคุณเหรอ??

ภรรยา    -               ใช่  5 ขวบแล้ว .. เอ่อ.. ฉันกำลังรอสามีมารับ  ไม่อยากให้ ..

หยัน        -               ( พยักหน้าฝืนยิ้ม ) อ้อ.. ผมเข้าใจ  ( แล้วหันหลังเดินคอตกแบบเศร้าๆ จากไป )

ด.ญ.       -               คุณแม่คะ  หนูอายุ 6 ขวบแล้ว

ภรรยา    -               เอ่อ.. ขอโทษจ๊ะ  แม่จำผิดไป 

( มองตามหลังด้วยแววตาเศร้าสลดที่ยังแฝงไว้ด้วยความรัก)

 

                รวมถึงฉากสุดท้ายที่เธอจูงลูกมาเคารพศพหยันด้วยน้ำตานองหน้า  ขณะที่ลูกสาวมอง

หน้าแม่สลับกับป้ายหลุมศพอย่างไม่เข้าใจ  ... นี่คือส่วนเติมเต็มของภาค 1 ที่เติมเข้ามาได้อย่าง

กลมกลืน ... จนอดไม่ได้ที่จะนึกไปถึงฉากเก่าๆ ในภาคแรกอีกครั้ง ...

 

                ตัวแสดงในภาคนี้  ต้องยกให้  “ อู๋เจินหวี่ “  ในบทพี่ชายของหยัน  ที่เล่นได้โดดเด่น

จนเกือบกลบทุกคนในฉาก  ทั้งเข้ม  นิ่ง  ลึก  และน่ากลัว  ทุกฉากเขาสื่อออกมาได้อย่างมากมาย

จนทุกคนในฉากแทบจะหายไปกับรัศมีการแสดงอันร้อนแรงนี้ ...

 

                แซม ( Eric Tsang )  เป็นคนดีในด้านกตัญญู ได้อย่างไม่น่าเชื่อในภาคนี้ .. หนังบอกเราว่า

อำนาจ และวันเวลา  สามารถเปลี่ยนคนได้เสมอ .. ทั้งนี้ทั้งนั้น  ล้วนมาจากฝีมือของผู้หญิง

เพียงคนเดียวที่ชักพาให้เป็นไป  แมรี่  (หลิวเจียหลิง )   ภรรยาสุดสวยของเขา 

               

แมรี่   ตัวแปรสำคัญของจุดเริ่มต้นต่างๆ  จุดเริ่มที่ทำให้หมิงเลือกเดินทางมืด  ...

เมื่อเขาตัดสินใจลั่นไกปลิดชีวิตพ่อของหยัน  มาเฟียมหาอำนาจ  ตามคำสั่งของเธอ  เหตุผลเดียว 

คือเพียงเพื่อต้องการให้สามีได้ไต่เต้าไปได้ไกลกว่านี้  เธอใช้ความรักของคนอื่นเป็นเครื่องมือ

ขณะที่หมิงถูกใช้ .. และเต็มใจที่จะยอมรับชะตากรรม .. และนี่  คือจุดเริ่มต้นของ  ชนวนเหตุ

ความรัก  ความแค้น ... ที่นำผลมาในภาค 1

 

                หมิง ( เฉินกวงซี ) เด็กหนุ่มน่าสงสาร  ที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน  และความรัก 

พลิกสีขาวเป็นสีดำในชั่วพริบตา   ภาคนี้ปูพื้นมาให้เห็นถึงพัฒนาการด้านความรัก  ที่กลับกลายมาเป็น

ความแค้น  และปิดฉากลงด้วยความเลือดเย็น  ต่อเนื่องไปถึงจิตใจของเขาในภาค 1 ได้เป็นอย่างดี

 

                หยัน ( ชอร์น หยู )  ต้องขอบอกว่า  แสดงได้เหมือนกับ  หยันที่เหลียงเฉาเหว่ยทิ้ง

บุคลิกไว้ในภาค 1 มากๆ  ทั้งสีหน้า  แววตา ... รู้สึกเหมือนเป็นคนๆ เดียวกัน  ตัวละคร

ตัวนี้ไม่ได้มีการพัฒนาไปจากขาว  เป็นดำ  ดำเป็นขาว  เพียงแต่ปูเรื่องราวให้เห็นถึงความเจ็บปวด

ซ้ำๆ  ที่เขามีในภาคแรกว่าเริ่มมายังไง??  มาจากไหน ?? และเพราะอะไร?  เท่านั้น  เพราะฉะนั้น

มันก็ไม่แปลก  ที่การแสดงของหยันในวัยหนุ่ม  จะแกะพิมพ์เดียวกันมากับในวัยปัจจุบัน ... 

 

ฉากประทับใจในภาคนี้ ... ที่ชอบมากๆ ก็คือ  ฉากที่หยันแสดงออกในแววตารู้สึกผิด

เมื่อพี่ชายที่ทุรนทุรายกำลังขาดใจตายจับมาเจอเครื่องดักฟังของสายลับในกระเป๋าเสื้อแจ๊กเก็ตของเขา

กับแววตาที่มองสารวัตรหว่องอย่างเจ็บแค้น ... แล้วก็ฉากสีหน้าเลือดเย็นของหมิง  ที่แสดงออกมา

ยามมองร่างของแมรี่ถูกชนตายต่อหน้าต่อตาได้อย่างเลือดเย็น ....

 

                ภาคนี้ .. ทึ่งในการเขียนบทมากๆ  ที่ออกมาต่อกับภาค 1 ได้อย่าง .. นะ .. ยกนิ้วให้

แบบไม่เคอะเขิน ..  ^^

 

 

- - - ------------------ oooooo ------------------ - - -

 

Infernal Affairs.III – 2คน 2 คม ภาค 3

 

                สำหรับภาคนี้ ... สิ่งที่ชอบมากที่สุดก็คือ  บทสรุปที่ทำได้หักมุม .. ไม่เชิงเกินความคาดหมาย

แต่ต้องขอบอกว่าใส่เข้ามาได้ในจุดที่คาดไม่ถึงมากกว่า ....

 

                ภาคนี้ถือได้ว่าเข้ามาเติม ส่วนที่ยังขาดหายไปของภาค 1 ได้อย่างดีมาก  เติมจนรู้สึกว่า

มันเต็มจริงๆ ... หนังเล่าย้อนไปมาระหว่างเหตุการณ์ก่อนหยันตาย  และหลังหยันตาย ..

 

                ฉากไคลแมกซ์ที่ปูไปถึงบทสรุปของภาคนี้ ... โผล่ขึ้นมาจากตัวละคร 2 ตัว คือ หยาง (หลีหมิง)

กับเสิ่น (เฉินเต้าหมิง)  ... หนังเล่าถึงเสิ่นที่เข้ามาทำธุรกิจกับแซม  และ หยางที่มีตำแหน่งใหญ่ ที่โดดเด่นในกรม

ตำรวจ ... จับจุดไปที่มือซ้ายเข้าเฝือกของหยันในภาคแรก  ( ทำได้ไง??  เจ๋งจริง  )  ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นหยันใน

ภาคแรกมือเข้าเฝือกตั้งแต่ต้นเรื่อง ... จำได้ว่าดูก็ยังสงสัยว่ามีได้ไง  ไม่เห็นมีฉากไปต่อยตีกับใครเสียหน่อย 

มาถึงภาคนี้... เขาใส่มุข ...  ย้อนให้ดูเชื่อมกันได้อย่างน่าทึ่ง .. ทึ่งจริงๆ ..  

 

                เรื่องเริ่มจากที่แซมทำการค้ากับเสิ่น  แล้วส่งหยันให้ไปเป็นตัวแทน  พร้อมกับหักหลังเสิ่น

โดยถ้าจำไม่ผิดคือ  หยาง  ซึ่งเป็นตำรวจนั่นแหละ  แต่แกล้งเข้ามาเป็นฝ่ายแซมขอให้แซมช่วยให้

เขามีผลงานเพื่อได้เลื่อนตำแหน่งในกรม  แซมเลยสร้างสถานการณ์นี้ขึ้นโดยส่งหยันเป็นเดนตาย

เดินมาเข้ากับดัก  ..

 

                และหลังจากที่เสิ่นรู้ว่าโดนหักหลังก็เกิดการยิงประทะกันขึ้น  หยันยิงขาเสิ่น  ส่วนเสิ่นยิงถูก

แขนซ้ายหยัน  นั่นเป็นที่มาที่ทำให้เราเห็นหยันเข้าเฝือกในภาค 1  และเสิ่นเดินกระเผลกๆ ตั้งแต่ต้นเรื่องในภาค 3 

หยางเข้าแสดงตัวแจ้งจับการค้าผิดกฎหมายทันทีหลังทั้งคู่บาดเจ็บ  แล้วความจริงก็เปิดเผยว่าแท้จริงแล้ว ..

หยางแกล้งเข้ามาเป็นพวกส่งข่าวให้แซมตายใจ  เสิ่นแกล้งเป็นมาเฟียเข้ามาค้าขายด้วยและหยันแกล้งเข้ามาเป็น

สายในแก๊งค์แซม  แต่ทั้ง 3 เป็นตำรวจ ...

 

                มิตรภาพเกิดขึ้น .. และนั่นเป็นสาเหตุให้ทั้ง  หยางและเซิ่น  ต้องการเปิดโปงหนอน 

คนที่ทำให้หยันตาย .. ...   และเป็นจุดจบของไตรภาคเรื่องนี้ในที่สุด ...

                แต่ที่ชอบมากที่สุดในภาค 3 นี้กลับเป็นฉากโรแมนติคของหยันกับหมอลี ( เคลลี่ เฉิน ) จิตแพทย์สาว

ที่เข้ามาบำบัดจิตให้เขา  ฉากทุกฉากของทั้งคู่  ดูแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้  ที่ชอบมากๆ คือฉากแอบมองหยันแล้วก็

ปิดพลาสเตอร์ให้ด้วยสายตาอ่อนโยน   รวมถึงบทสนทนาโต้ตอบของ ทั้งคู่ทำให้ภาค 1 ดูสมเหตุสมผลมากขึ้น 

ว่าทำไม  หยันถึงเลือกบอกความจริงและเลือกไปหา ที่พึ่งสุดท้ายของเขา  คือผู้หญิงคนนี้  .... ภาคนี้มาเติมเต็ม

ได้อย่างชนิดที่เรียกว่าหายข้องใจ .. 555 ..

 

                บอกตรงๆ ว่าชอบฉากจบของเรื่องนี้มากๆ  .. เพราะมันเป็นฉากที่ย้อนไปถึงวันแรกที่ทั้ง

หมิงและหยันพบกัน .. ในร้านขายเครื่องเสียงแห่งหนึ่ง .. มิตรภาพสั้นๆ .. กับบทเพลงเก่าๆ เยียบเย็น

บทเพลงแห่งความหลังของหมิงกับแมรี่แฟนแซม .... ที่กังวานบาดลึกเข้าไปถึงหัวใจ ... ปิดฉากได้

อย่างตราตรึง ....... .......  เหงาแบบได้ใจกันไปเต็มๆ เลยล่ะ .. 555 .. ... ไม่เชื่อลองดูสิิ

 

 

---------------------- *** The End of Review *** ---------------------

___ Peachii ___

Edit Writing : 30/05/2004

 

( ความคิดเห็น .. แม้เพียง 1 ประโยค เปรียบเสมือน " ไม้ขีด " ที่จุดต่อประกายไฟให้กับงานเขียนชิ้นต่อไป .. ขอบคุณค่ะ ^^ )

++ .. Webboard : เวบบอร์ดต้นจินตนาการ .. ++

Anime & Drama :  รีวิวอนิเมะ&ดราม่า

@@ บอร์ดพูดคุยเรื่องหนัง, อนิเมะ และแฟนซับ ใครดูเรื่องไหนแล้วโดนใจ อยากพูด อยากคุย อยากแนะนำ เข้ามาได้ที่ บอร์ดหนัง ค่ะ..@@
======== OOO =========

 

 

.............................. ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่แวะเข้ามาเยี่ยมเยียน ...............................

งานเขียนทุกเรื่องที่ปรากฎในเวบนี้  ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายให้เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน
ห้ามนำไปกระทำการใดๆ ก่อนได้รับอนุญาตจากผู้เขียนเรื่องนั้นๆ

http://peachfic.50webs.com   หรือ   http://peachfic.50megs.com

     Contact Webmaster  :   peach_fic@hotmail.com

Msn      :   peach_fic@hotmail.com.